ENGLISH COURSES

English Courses

เป็นหัวข้อสำคัญที่ผู้ทำอาชีพแนะแนวเรียนต่อต้องเจอตลอดเพราะนักเรียนไทยที่ต้องการไปเรียนต่อเกือบร้อยละ 80 มีความจำเป็นต้องเรียนภาษาก่อน ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ WALS EDUCATION เราให้ความสำคญกับการเลือกคอร์สภาษา “English Courses” เป็นอย่างมากเพราะผู้เรียนจะต้องนำความรู้ที่ได้จากคอร์สที่เลือกไปใช้ได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน เรามีสถาบันภาษาที่เป็นพันธมิตรอยู่หลายประเทศเช่น อังกฤษ อเมริกา นิวซีแลนด์ฯ ซึ่งสถาบันเหล่านี้ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาของประเทศที่สถาบันตั้งอยู่ ในส่วนของคอรส์ภาษาอังกฤษนั้นมีอยู่หลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้เรียนเช่น Prep Exam (TOEFL, IELTS) เพื่อใช้ในการสมัครเข้าเรียนปริญญาโทหรือเอก ผู้เรียนสามารถเลือกสถาบันเหล่านี้จาก Ranking, Budget, City, Country โดยทาง WALS EDUCATION จะเป็นผู้สนับสนุนเรื่องข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ปัจจัยสำคัญในการเลือกคอร์สลำดับแรกคือเรื่องค่าใช้จ่าย (Tuition, Accommodation, Cost of Living) ฉะนั้นควรเลือกสถาบันภาษาที่คิดค่าเล่าเรียนตามงบประมาณที่ผู้เรียนมีอยู่ เช่น ค่าเรียน $10,000 ต่อปี ผู้เรียนควรมีประมาณต่อปีอย่างน้อย $18,000 – $20,000 การเลือกสถาบันภาษาต้องใช้หลักเกณฑ์หลายๆด้านประกอบการตัดสินใจเรามีข้อแนะนำดังนี้

ข้อมูลเพื่อใช้เลือกสถาบันภาษา

• TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) CertTESOL หรือ Certificate of TESOL เป็นวุฒิบัตรที่ออกโดย Trinity College London สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านการสอนภาษาอังกฤษจากประเทศอังกฤษมากว่า 30 ปี และมีศูนย์อบรมอยู่ทั่วโลก
• CELTA (Certificate of English Language Teaching to Adults) เป็นวุฒิบัตรการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นอบรมให้ครูสามารถสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งออกโดย University of Cambridge
• EnglishUSA เป็นองค์กรเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนและดูแลให้คำปรึกษาเกี่ยวการรักษามาตราฐานการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของสถาบันภาษาที่เป็นสมาชิกขององค์กร
• ฺสถาบันภาษาได้รับการรับรองจาก British Council หรือไม่
• สถาบันภาษาเป็นศูนย์ทดสอบทางภาษาหรือเปล่า เช่น TOEFL หรือ TOEFL Test Center
• สถานที่ตั้งของสถาบันภาษาตั้งอยู่ในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยหรืออยู่ย่านเดียวกับมหาวิทยาลัยไหม
• สถานที่ตั้งอยู่ในย่านที่ปลอดภัยไหมตรงนี้สำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนต่ออเมริกา
• เชื้อชาติของประชากรและวัฒนธรรมของเมืองที่ตั้ง ตรงนี้สำคัญเพราะจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่

ต่อมาจะเป็นเรื่องคอร์สภาษาที่เราควรจะเลือกตามวัตถุประสงค์ที่จะนำมาใช้ เช่น นักศึกษาเพิ่งจบปริญญาตรีอยากเรียนต่ออเมริกาควรจะลงเรียน Prep Exam-TOEFL เพื่อสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย, นักเรียนมัธยมปลายควรสมัคร Vacation English – Study Tour, นักศึกษาอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยควรจะสมัครเรียน Intensive English เป็นต้น

หลายๆครั้งมีคำถามจากนักเรียนว่าต้องเรียนนานไหมถึงจะสมัครเข้ามหาวิทยาลัยได้ตรงนี้ประการขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาของแต่คนว่ามีมากแค่ไหนต่อมาความขยันและตั้งใจเรียนมีมากพอไหม จาก 2 ข้อนี้จะบอกได้ว่าพร้อมไหมกับการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีนักเรียนหลายคนเมื่อเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยจริงๆแล้วกับพบอุปสรรคพอสมควรในภาคการเรียนที่ 1 เพราะเมื่อเรียนในชั้นเรียนที่มีนักเรียนท้องถิ่นมาเรียนด้วยอาจารย์ผู้สอนก็สอนตามปกติเสมือนเราเป็นนักเรียนท้องถิ่น ที่เห็นชัดคือเรื่องการฟังที่ไม่เข้าใจและการพูดไม่ค่อยคล่องต้องใช้เวลาและความขยัน อดทนในเรื่องนี้ ถ้าผ่านปีแรกไปได้ก็ถือว่าไม่น่าจะเจออุปสรรคด้านการสื่อสารอีก โอกาสที่จบการศึกษาตามระยะของหลักสูตรมีสูงจะทำให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ข้อเสนอแนะตอนเรียนภาษา

ให้เริ่มจากการพัฒนาการฟังเพราะถ้าฟังรู้เรื่องก็จะได้เรื่องทักษะการพูดตามมา ทั้ง 2 ทักษะนี้จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้จะเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย จากข้อมูลของสถาบันภาษา FLS International USA และ LSI UK พบว่านักเรียนจะทำข้อสอบส่วนไวยากรณ์ได้คะแนนสูง แต่จะได้คะแนน้อยในส่วนของการฟังหรือตกเลยก็มี ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่เจ้าหน้าที่มาก หากลงเรียนไว้ 6 เดือนเราขอแนะนำดังนี้ในช่วง 2 เดือนแรกให้ฝึกฟังและพูดเป็นหลักหลังจากเดือนที่ 3 และ 4 นั้นเน้นเรื่องอ่านส่วนการเขียนไว้ช่วง 2 เดือนสุดท้าย ลำดับการเรียนรู้ภาษาของมนุษย์จะเป็นแบบนี่ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน น้องๆสามารถหาอ่านเพิ่มเติม ที่นี่

การเรียนภาษาออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

ปัจจุบันมีสถาบันภาษาในต่างประเทศหลายๆแห่งเปิดการสอนออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะคอร์ส Test Preparation – TOEFL, IELTS สามารถหาข้อมูลได้ ที่นี่