เรียนต่อ ป.ตรี ป.โท เมืองนอก
University and College Admission
การศึกษาเป็นการสร้างทรัพยากรมนุษย์และยกระดับฐานะทางสังคมดังนั้นวุฒิการศึกษาจึงมีความสำคัญมากเวลาสมัครงานหรือความเจริญก้าวหน้าในสายงานที่ทำอยู่ ทำให้นักศึกษารู้สึกว่าปริญญาตรีที่เรียนอยู่อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ตนเองหางานได้หรือบุคคลที่ทำงานอยู่แล้วมีอุปสรรคในการขึ้นไปตำแหน่งที่สูงกว่าที่ทำอยู่ ดังนั้นความต้องการเรียนต่อในระดับปริญญาโททั้งในและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการนี้เราจะขอแนะแนวทางการสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ University Admission ตั้งแต่ ป.ตรีไปถึง ป.เอกของนักเรียนต่างชาติ International Student ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรและต้องคำนึงถึงอะไรบ้างเช่น การเดินทาง ภาษา สถานศึกษา ทุนทรัพย์ และ การใช้ชีวิต การเตรียมตัวให้พร้อมในด้านต่างๆ จะช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อต้องอาศัยอยู่ในต่างแดนหรือเมือ่ขึ้นก็จะแก้ไขได้ไม่ยากโดยควรมีการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นดังนี้
- ปัจจัยความพร้อมด้านการเงิน
- ปัจจัยด้านพื้นฐานการศึกษา
- ปัจจัยด้านภาษา
- ปัจจัยการเลือกสาขาวิชาและสถาบัน
ปัจจัยความพร้อมด้านการเงิน แต่ละประเทศจะมีอัตราค่าครองชีพที่สูงตํ่าต่างกันไป แม้ในประเทศเดียวกันแต่ต่างเมือง ต่างรัฐ ก็อาจมีค่าครองชีพที่ต่างกันอย่างมาก ดังนั้นก็วางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร อันรวมถึงค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง และสันทนาการอื่น ๆ จำเป็นต้องรวมอยู่ในบัญชีรายจ่ายที่ต้องเตรียมพร้อมไว้แต่แรก และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยขณะที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ ข้อสำคัญอีกประการของจำนวนเงินสำรองในบัญชีเงินฝากประจำที่จะต้องใช้ออกหนังสือรับรองในการขออนุมัติวีซ่าด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ $30,000 ต่อปี ควรจะต้องมีเงินสำรองในบัญชีเงินประจำอย่างน้อย $50,000
ปัจจัยด้านพื้นฐานการศึกษา มหาวิทยาลัยในต่างประเทศจะรับนักเรียนมัธยมต่างชาติเข้าเรียนระดับปริญญาตรีโดยใช้ผลการเรียนที่ผ่านมาของนักเรียน ดังนั้นจึงควรต้องทำคะแนนเฉลี่ยสะสมให้ดี ในต่างประเทศหากเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยม จะรับพิจารณานักศึกษาเข้าศึกษาด้วยคะแนน GAP ตั้งแต่ 3.00 – 3.50 ขี้นไปและนักศึกษาระดับปริญญาตรี ควรมีคะแนน GPA อย่างน้อย 2.75 สาหรับปริญญาโท GPA = 3.50 ขึ้นไป ทั้งนี้ในบางประเทศนักเรียนอาจจะต้องผ่านหลักสูตรการเรียนปรับพื้นฐานก่อนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมและสอบตามระบบเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
ปัจจัยด้านภาษา การศึกษาต่อต่างประเทศ สิ่งสาคัญในการเรียนรู้ทั้งหมดคือพื้นฐานทางด้านภาษาของนักเรียน ถ้านักเรียนอาจเลือกเข้าศึกษาต่อในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น ประเทศเหล่านี้มักใช้ผลการทดสอบมาตราฐานเพื่อเป็นเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษา นักเรียนต้องผ่านแบบทดสอบความสามารถทางภาษาให้ได้ตามเกณฑ์ที่สถาบันการศึกษากำหนด อีกกรณีนักศึกษาลงทะเบียนเรียนภาษาอังกฤษ English Courses กับทางมหาวิทยาลัยหรือสถาบันภาษาที่การรับรองจากมหาวิทยาลัยว่าถ้าผ่าน Level ที่เท่าไรแล้วจึงสามารถสมัครเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องใช้ผลเกณฑ์การทดสอบเช่น Level 14 ของสถาบันนี้เท่ากับผลคะแนน TOEFL iBT 79-95 เป็นต้น แต่เราจะยกตัวอย่างการทดสอบความสามารถทางภาษาทั่วไปที่นิยมใช้มีดังนี้
- TOEFL (Test of English as a Foreign Language) เป็นการวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ใช้มากในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวัดทักษะภาษาอังกฤษใน 4 ด้าน คือ การพูด การฟัง การอ่านและการเขียน โดยเน้นความรู้ความเข้าใจทางภาษาในเชิงวิชาการ และความสามารถในการสื่อสาร ปัจจุบันใช้การสอบผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต จึงเรียกว่า TOEFL iBT (TOEFL Internet Based Testing) รายละเอียดเพิ่มเติมที่ TOEFL
- IELTS (International English Language Testing System) เป็นการวัดทักษะและความสามารถภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ เพื่อใช้ประเมินความสามารถของผู้สมัครที่ต้องการไปศึกษาต่อหรือทางานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นการสื่อสาร ซึ่งมักใช้ใน สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย โดยวัดความสามารถทางด้านไวยากรณ์และคาศัพท์ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน รวมทั้งเน้นที่ความสามารถในการใช้ภาษาเชิงวิชาการและเชิงการฝึกอบรมทั่วไป รายละเอียดเพิ่มเติมที่ IELTS
- SAT (Scholastic Aptitude Test) เป็นข้อสอบที่ใช้วัดระดับความรู้ ความสามารถของนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นแบบทดสอบมาตรฐานที่นักเรียนในสหรัฐฯ ทุกคนจะต้องสอบเพื่อเป็นการวัดความรู้ความสามารถเป็นเกณฑ์เดียวกัน แบ่งออกเป็น SAT I ซึ่งเป็นการทดสอบการใช้เหตุผลทางด้านคณิตศาสตร์และภาษาศาสตร์ และ SAT II คล้ายกับการสอบวิชาเฉพาะในประเทศไทยรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SAT
ปัจจัยการเลือกสาขาวิชาและสถาบัน ความน่าเชื่อถือของสถาบันดูจากการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยของประเทศนั้นและบางครั้งมีการจัดอันดับแบบแยกเป็นสาขาวิชาอีกด้วย ซึ่งการจัดอันดับจะวัดจากคุณภาพของอาจารย์ ผลงานของทั้งนักเรียนและอาจารย์ อัตราส่วนของอาจารย์ต่อนักศึกษา เป็นต้น ในส่วนของการเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโท ต้องคำนึงถึงการได้รับรองคุณภาพจากหน่วยงานของไทยคือ สำนักงานก.พ. และการเลือกสาขาในต่างประเทศมีสาขาวิชาต่างๆให้เลือกเรียนมากมายและเฉพาะด้านมากกว่าในไทย เราควรเริ่มจากสาขาที่ต้องการเรียนต่อ โดยพิจารณาจากความชอบ ความถนัด หรือเรียนจบแล้วจะนำไปใช้แบบไหน, หางานง่ายไหมมาประกอบกัน แล้วหาข้อมูลต่อว่า มหาวิทยาลัยไหนเปิดสอนในสาขาดังกล่าว และมีความโดดเด่นในด้านนั้นๆมากแค่ไหนหรือมีปัจจัยอื่นที่เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน ซึ่งสามารถหาข้อมูลได้จากเวบไซต์ต่างๆ หรือศุนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ โดยสิ่งที่นักเรียนควรพิจารณาดังนี้ตามลำดับ
- มาตรฐานของสถาบัน และการรับรองฐานะทางการศึกษาตรวจสอบกับ ก.พ.
- มีสาขาวิชาที่ต้องการ โครงสร้างของหลักสูตรชัดเจน
- ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อปีการศึกษาเช่นค่าเทอม, ค่าที่พักและอาหาร
- หลักเกณฑ์การรับนักศึกษาว่านักเรียนมีโอกาสในการเข้าเรียน
- ทำเลที่ตั้งของสถานศึกษา สภาพภูมิประเทศและอากาศ
- อัตราส่วนนักเรียนต่ออาจารย์ จำนวนนักศึกษา
- อาคารสถานที่และสิ่งอานวยความสะดวก สื่อการเรียนการสอน